FourFourTwo จัดเต็ม 50 สุดยอดกุนซือลูกหนังโลก 2015: อันดับ 1

Without further ado, the best manager in world football profiled by Nick Ames...
มีคำกล่าวว่า “อย่าย้อนกลับ” แต่สำหรับเชลซีนั้น ดูราวกับว่าโชเซ่ มูรินโญ่ไม่เคยจากไป เพราะนับตั้งแต่ย้ายกลับมากุมบังเหียนสิงโตน้ำเงินครามที่สแตมฟอร์ดบริดจ์เมื่อ 2 ฤดูกาลที่แล้ว กุนซือชาวโปรตุกีสแสดงให้เห็นว่านี่คือโชเซ่ มูรินโญ่ ผู้ที่ถูกหล่อหลอมจากทุกคุณสมบัติโดดเด่นที่ทำให้พรีเมียร์ลีกเป็นเกมฟุตบอลที่ตื่นเต้นน่าติดตามทั้งในสนามและนอกสนามแข่ง
นอกเสียจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันแล้ว แทบจะไม่มีโค้ชคนใดสามารถสยบคู่แข่งให้สิ้นสภาพหมดรูปได้เหมือนมูรินโญ่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเจอกับคู่แข่งแบบไหนก็ตาม สุดยอดกุนซือวัย 52 ปีเป็นเจ้าแห่งการกำกับจังหวะการเล่น ไม่ว่าจะเป็นการกำกับผ่านทางการจัดตัวและจัดระบบทีมหรือผ่านการยุแหย่คู่แข่งให้เสียสมาธิแม้อีกฝ่ายจะใจเย็นแค่ไหนก็ตาม ดูอย่างมานูเอล เปเยกรินี่เมื่อฤดูกาลที่แล้วที่ยังเคยถูกมูรินโญ่เล่นเกมสงครามประสาทเสียจนตบะแตก ทำให้ฤดูกาลที่แล้วเป็นตัวอย่างที่ดีให้เห็นถึงพรสวรรค์ (ในการยั่วประสาทคู่แข่ง) ของมูรินโญ่
จอมทัพผู้บัญชาการเกม
เชลซีเริ่มต้นฤดูกาล 2014/15 ด้วยการเล่นฟุตบอลชั้นเยี่ยมชนิดที่เรียกได้ว่าสุดยอดกว่าทุกทีมที่มูรินโญ่เคยคุมมาก่อน กุนซือชาวโปรตุเกสเคยถูกนักวิจารณ์ตำหนิถึงแนวคิดการทำทีม ถึงความมุ่งมั่นที่จะเก็บ 3 แต้มด้วยวิธีการที่เถรตรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่หลังจากการคว้าตัวเชสก์ ฟาเบรกาสมาร่วมทีมในช่วงฤดูร้อนก็นับเป็นการชี้ให้เห็นแนวทางใหม่และทีมใหม่ที่เปิดฉากการเล่นฟุตบอลด้วยความเร็วและร้อนแรง รวมกับมิดฟิลด์ที่วูบวาบละลานตารวมกับการจบสกอร์เฉียบคมของนักเตะใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาร่วมทีม: ดาวยิงสแปนิช ดิเอโก้ คอสต้า
Mourinho's side always did enough, even if it wasn’t pretty, but then Mourinho's sides always do
เมื่อถึงช่วงฤดูหนาวที่นักเตะเชลซีเริ่มมีปัญหาจากอาการบาดเจ็บและโทษแบน มูรินโญ่ก็ปรับแท็คติกใหม่ แต่การพ่ายให้ 5-3 ให้กับท็อตแน่มฮ็อตสเปอร์ก็ดูจะทำให้มูรินโญ่เจ็บใจไม่น้อย จนส่งผลให้เชลซีเริ่มเล่นอย่างระมัดระวังมากขึ้นในช่วงต้นปี 2015 ซึ่งในระหว่างนั้นเป็นช่วงที่ดิเอโก คอสต้ายังดิ้นรนเรียกความฟิต ส่วนเชสก์ ฟาเบรกาสก็ล้าโรย แต่ผลการแข่งขันของเชลซีก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก
ลูกทีมของมูรินโญ่มักจะทำผลงานได้ดีพอ แม้จะไม่ได้สวยหรู แต่ก็ยังถือว่าทำได้อย่างพอเพียงที่จะเอาตัวรอด และหนึ่งในเกมที่ถือว่าเป็นจุดสำคัญของฤดูกาลคือการเปิดบ้านเฉือนเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 1-0 เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่เรียกได้ว่าเป็นการการันตีตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกของเชลซี “นี่คือเกมที่เราจะไม่มีทางแพ้ ไม่มีทาง” มูรินโญ่กล่าวกับเอเด็น อาซาร์ ในช่วงก่อนเริ่มเกม และหลังจากนั้นเชลซีก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าแม้จะได้ครองบอลเพียง 30% ตลอดทั้งเกม แต่สิงโตน้ำเงินครามก็ทำงานได้ตามแผนการเล่นอย่างเรียบร้อยสวยงาม
การเล่นสไตล์อนุรักษ์นิยมของเชลซีทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันมากช่วงสัปดาห์ท้ายๆ ของฤดูกาล ซึ่งก็ค่อนข้างจะไม่ยุติธรรมนักสำหรับเชลซี ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั่นก็เป็นเพียงหลักฐานสำคัญอย่างหนึ่งถึงความสามารถของมูรินโญ่ในการปรับตัวตามสถานการณ์และรักษาผลการเล่นและตำแหน่งผู้นำเอาไว้ ซึ่งเป็นสิ่งที่มูรินโญ่ทำมาโดยตลอดทั้งชีวิตการคุมทีม ยกตัวอย่างคือการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก 2010 กับอินเตอร์ ซึ่งปีนั้นในเกมรอบรองชนะเลิศที่อินเตอร์ลงสนามพบกับบาร์เซโลนาภายใต้การคุมทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลา มูรินโญ่ได้ตัดสินใจวางเป้าว่าลูกทีมจะต้องสร้างอันตรายในจังหวะไม่มีบอลให้มากกว่าจังหวะที่ได้โอกาสเล่นบอลกับเท้า จนในที่สุดมูรินโญ่ก็สามารถทำให้อินเตอร์คว้าชัยชนะและผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับบาเยิร์นมิวนิคได้ในที่สุด
Euro sceptics
เชลซียังคงถูกวางให้เป็นทีมเต็งที่จะสู้และลุยแหลกตามคำสั่งกุนซือโปรตุกีสเพื่อคว้าแชมป์อีกสมัยในฤดูกาล 2015/16 แม้จะยังมีคำถามถึงสไตล์การเล่นก็ตาม ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างมูรินโญ่และโรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรที่เคยย่ำแย่จนมูรินโญ่ต้องเปิดหมวกอำลาสแตมฟอร์ดบริดจ์ไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2008 แต่ขณะนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองกับชื่นมื่นกว่าที่เคยเป็นมา แม้จะยังมีหลายคนที่อดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นอบราโมวิชจริงหรือที่ตัดสินใจปล่อยตัวนายประตูจอมเก๋า ปีเตอร์ เช็ค ให้ย้ายไปร่วมทีมอาร์เซนอล ทั้งที่ผู้จัดการทีมดูไม่ค่อยเต็มใจจะปล่อยตัวไปนัก และเจ้าของทีมเชลซีจะทำอย่างไรหากนั่นเป็นจุดที่ทำให้อาร์เซนอลกลายมาเป็นคู่แข่งแย่งแชมป์ที่น่ากลัวในปีนี้
เชลซียังคงถูกวางให้เป็นทีมเต็งที่จะสู้และลุยแหลกตามคำสั่งกุนซือโปรตุกีสเพื่อคว้าแชมป์อีกสมัยในฤดูกาล 2015/16 แม้จะยังมีคำถามถึงสไตล์การเล่นก็ตาม ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างมูรินโญ่และโรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรที่เคยย่ำแย่จนมูรินโญ่ต้องเปิดหมวกอำลาสแตมฟอร์ดบริดจ์ไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2008 แต่ขณะนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองกับชื่นมื่นกว่าที่เคยเป็นมา แม้จะยังมีหลายคนที่อดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นอบราโมวิชจริงหรือที่ตัดสินใจปล่อยตัวนายประตูจอมเก๋า ปีเตอร์ เช็ค ให้ย้ายไปร่วมทีมอาร์เซนอล ทั้งที่ผู้จัดการทีมดูไม่ค่อยเต็มใจจะปล่อยตัวไปนัก และเจ้าของทีมเชลซีจะทำอย่างไรหากนั่นเป็นจุดที่ทำให้อาร์เซนอลกลายมาเป็นคู่แข่งแย่งแชมป์ที่น่ากลัวในปีนี้
แล้วไหนจะยังต้องมีปัญหาหนามยอกอกในเวทียุโรปมาตอกย้ำ เพราะหากการผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก 2013/14 นับเป็นผลงานที่ดีพอใช้ การพ่ายแพ้ให้กับปารีส แซงต์ แฌร์กแมง ที่มี 10 ตัวจนตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในฤดูกาลที่ผ่านมาก็ถือเป็นผลงานที่ไม่ดีและไม่พอใช้เลย ทำให้ปีนี้เชลซีจะต้องคาดหวังถึงการปรับปรุงผลงานเป็นการใหญ่
หากมูรินโญต้องพบกับสภาวะหลังชนฝา แต่ยังคงมีศึกหนักที่ต้องดวลกับผู้จัดการทีมอีกหลายราย หนึ่งในนั้นคือมานูเอล เปเยกรินี่ กุนซือมาดนิ่งที่ครั้งหนึ่งเคยถูกมูรินโญ่แย่งตำแหน่งมาเมื่อครั้งที่เข้ารับหน้าที่คุมทีมเรอัลมาดริดเมื่อปี 2010 ที่เคยบ่นงึมงำถึงมูรินโญ่แม้จะจบฤดูกาลไปแล้ว โดยเปเยกรินี่กล่าวหามูรินโญ่ว่า “อาจจะได้คำชมเชยในทุกๆ เรื่อง” เมื่อเชลซีสามารถเก็บชัยชนะ และยืนยันว่าตนเองนั้น “ต่างกับมูรินโญ่ในทุกๆ ด้าน” นอกจากนี้เปเยกรินี่ยังเคยกล่าวหาเชลซีว่าเล่นฟุตบอลเหมือน “ทีมเล็ก” ในเกมที่เสมอกัน 1-1 ที่สนามเอติฮัดสเตเดี้ยมเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว แต่ทั้งหมดนั้นก็ทำให้รู้สึกราวกับว่าเปเยกรินี่เป็นอีกคนหนึ่งที่หลวมตัวเข้าไปติดกับดักของมูรินโญ่เสียแล้ว
ไม่มีใครคนใดที่เล่นละครพรีเมียร์ลีกตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ไม่มีหยุดไม่มีพักเหมือนมูรินโญ่ผู้เคยมีนิสัยชอบยุชอบแหย่ให้คู่แข่งสติแตกด้วยการเลือกใช้คำพูดแสบๆ ที่ทำให้สื่อฮือฮากันใหญ่ในขณะที่ตัวมูรินโญ่เองนั้นกลับทำเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อน
นอกจากนี้มูรินโญยังเชี่ยวชาญการตีฆ้องร้องป่าวโฆษณาตัวเอง หากให้ยกตัวอย่างก็คงจะเป็นการออกรายการโทรทัศน์ GOALS ทางช่อง Sky Sports ในวันอาทิตย์หลังจากที่เนมานย่า มาติชได้รับใบแดงในเกมกับเบิร์นสลีย์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ทุกอิริยาบถการเคลื่อนไหวของมูรินโญ่ได้รับการคำนวณมาอย่างดีเพื่อให้เกิดผลอย่างล้ำเลิศ
เมื่อมีโอกาสชนะ ก็ชนะ
Nobody plays the relentless, 24/7 Premier League soap opera like Mourinho
ฤดูกาลหน้าของมูรินโญ่ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และบางทีมูรินโญ่อาจจะได้เข้าไปเจอกับการดวลกันในระยะประชิดกับอาร์แซน เวงเกอร์ทั้งในลีกและในหน้าหนังสือพิมพ์ เมื่อทั้งสองคนต่างก็ไม่กินเส้นกันมาเนิ่นนานแล้ว
และไม่ว่าจะต้องเจอักับคู่แข่งคนใด ก็นับว่าเป็นการยากที่จะวางพนันแข่งกับผู้จัดการทีมที่เคยคว้าแชมป์ลีก 8 รายการกับ 4 สโมสรในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา แต่ในส่วนของปรัชญาการทำทีมที่เป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับผู้จัดการทีมยุคใหม่ มูรินโญ่นับเป็นคนหนึ่งที่ยึดถือปรัชญาการทำทีมที่สำคัญที่สุด เพราะปรัชญาของมูรินโญ่คือการมุ่งสู่เป้าหมายชัยชนะ...และมูรินโญ่ก็แทบไม่ค่อยได้ทำสิ่งอื่นใดนอกเหนือจากการเอาชนะคู่แข่งเท่านั้น
มองแท็คติก กับ ไมเคิล ค็อกซ์
โชเซ่ มูรินโญ่ มักจะให้ลูกทีมฝึกซ้อมโดยใช้ 2 ระบบที่แตกต่างกัน ซึ่งนั่นเปิดโอกาสให้เขาสามารถสลับใช้งานทั้งสองระบบอย่างรวดเร็วและง่ายดายตามจุดประสงค์ที่ต้องการ ในเกมกับปอร์โต้และในการคุมทีมเชลซีสมัยแรก มูรินโญ่ใช้ระบบ 4-3-1-2 และ 4-3-3 จากนั้นในเกมที่พบกับอินเตอร์ มูรินโญ่เลือกใช้ระบบ 4-3-1-2 และ 4-2-3-1 ก่อนที่จะเลือกใช้ระบบ 4-2-3-1 และ 4-3-3 กับเรอัลมาดริดและในการคุมทีมเชลซีในสมัยที่ 2
และนั่นก็เป็นการสรุปแนวทางการทำทีมของโชเซ่ มูรินโญ่: การเลือกใช้ระบบทีมที่ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนตามสภาวะของแต่ละเกม นอกจากนี้แล้วมูรินโญ่ยังจัดทีมที่มีระบบระเบียบชัดเจนและแทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าทีมของกุนซือชาวโปรตุกีสเป็นทีมที่พร้อมจะลุยสู้ทุกเกมตรงหน้า
มูรินโญ่เคยถูกวิจารณ์ว่าเล่นเกมรับมาเกินไป และในเกมใหญ่ๆ ก็วางแท็กติกที่ระมัดระวังมากจนเกินไป แต่อย่างไรก็ตาม บางครั้งเราได้เห็นว่าทีมของมูรินโญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่คุมทีมเรอัลมาดริด เคยเป็นทีมที่บดขยี้เอาชนะทีมเล็กกว่าได้อย่างน่ากลัว และบางทีคำวิจารณ์ที่เหมาะสมกว่าก็คือทีมของมูรินโญ่พึ่งพาเกมการเล่นแบบมุ่งเข้าไปยิงประตูตรงๆ และเน้นหนักในการเล่นเกมสวนกลับมากจนเกินไป
หากมองถึงสไตล์การทำทีม มูรินโญ่ไม่ได้สร้างวิวัฒนาการฟุตบอลใหม่ๆ แต่สิ่งที่ เดอะ สเปเชียล วัน เป็นก็คือเป็นผู้ที่สามารถต่อยอดแท็กติกมาตรฐานด้วยการเสริมประสิทธิภาพที่น่ากลัวได้อย่างถูกจังหวะถูกเวลา และหากมองในมุมนั้นก็จะเห็นได้ชัดเจนว่า โชเซ่ มูรินโญ่ เป็นเจ้าแห่งแท็กติกฟุตบอล
FourFourTwo ภูมิใจเสนอ 50 สุดยอดกุนซือลูกหนังโลก: 50-46 • 45-41 • 40-36 • 35-31 • 30-26 • 25-21 • 20-16 • 15-11 • 10 • 9 • 8 • 7 • 6 • 5 • 4 • 3 • 2 • 1
#FFT50MANAGERS